Thursday, October 2, 2014

Snow Ball Trading Technic By MudleyGroup

Snow Ball Trading Technic


มีน้องๆสงสัยว่าทำไมผมถึงมีการเทรดที่ชอบสวน Trend วันนี้จะเล่ากลยุทธ์ให้ฟังนะครับ

1. พอถึงจุดหนึ่งที่น้องมี portfolio เยอะๆมากๆหลายๆพอร์ต รุปแบบการลงทุนน้องจะเปลี่ยนไป น้องต้องมองในแง่ของกลยุทธ์มากขึ้น รายได้ในระยะสั้น จะกลายเป็นอันตรายสำหรับน้อง ดังนั้นน้องต้องพยามหา long term cash flow ให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม

2. ทำไมเรื่องการ focus การ predict ราคาถึงหมดความสำคัญไปเรื่อยๆ เพราะ ถ้าน้องโฟกัสไปที่การ predict ราคา มันจะทำให้ความเสี่ยงของน้องทั้งหมดตกไปอยุ่ที่ราคา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าน้องผิดล่ะ น้องกำลังนำเอาตัวเองเข้าไปอยุ่ ในภาวะที่ผิดไม่ได้ ซึ่งถ้าการลงทุนของเรา base อยุ่บนตรงนั้นแล้ว ในฐานะนักลงทุน เราเองคงไม่กล้าลงทุนกับ กลยุทธ์การลงทุนแบบผิดไม่ได้จริ งมั้ยครับ เพราะเมื่อไรที่เราผิด เราต้อง cut loss แล้วเมื่อไรที่เรา cut loss ในปริมาณสูงขึ้น เราก็จะพยามเข้า positions ที่หนักขึ้นในตลาด เพื่อหากำไรมาชดเชย ดังนั้น ภาพของนักพนันมันจะเริ่มซึมเข้าไปที่เราโดยไม่รุ้ตัว พี่เห็นผู้จัดการกองทุนเก่งๆ จบอนาคตของตัวเองด้วยการผูกตัว ไว้ที่การ predict market มันไม่สำคัญว่าเราจะถูก 80% 90% แต่ที่สำคัญแน่นอนคือ ไม่มีใครที่จะถูก 100% และ เมื่อเราผิด เราคิดว่าเราจะหาเงินมาชดเชยตรงที่เราผิดได้จริงหรอ

3. แน่นอนช่วงแรกๆ การลงทุนแบบ predict ราคานั้นมันไม่อันตราย เพราะการเอาคืนหลังจากที่ผิดพลาดไปแล้ว มันยังง่ายๆอยุ่ แต่เมื่อไรที่ที่พอร์ตน้องใหญ่ขึ้นมากๆล่ะ น้องจะเริ่มเห็นภาพพวกที่ไปเริ่ม เจ๊งเมื่อ portfolio เริ่มขึ้นไปสุ่ ระดับ 100 ล้าน หรือ 1 พันล้าน หรือ เริ่มตันในการขยับขยาย เพราะ ถ้าพอร์ตในระดับนั้น เมื่อเราผิดน้องคิดว่า mental ของเราจะสามารถรับไหวหรอ ถึงแม้ว่าตัวเลขจะ % เท่าๆกัน เช่น มี port 100,000 บาท เราขาดทุน 10 % คือ 1 หมื่นบาท กับมีพอร์ต 1 พันล้าน ขาดทุน 10% คือ 100 ล้าน เราจะหา 100 ล้านนั้นคืนได้ง่ายๆเลย หรือ จะมีคนในตลาด ยอมเสียเงินคืนให้เรา 100 ล้าน ได้ง่ายๆหรือ มันคือความเสี่ยงในเชิงลึก น้องต้องมองให้ออก เพราะเม็ดเงินมันมีจำกัด และ ไม่มีใครอยากขาดทุนหรอก

4. พี่วางกลยุทธ์อย่างไร จะสวนเทรนตลอดหรือไม่ ปัญหาไม่ได้อยุ่ตรงนั้น เวลาพี่ลงทุนแล้ว พี่จะต้องคิดว่า win-win เช่น ใน stock หากพี่คิดว่าหุ้นตัวนั้นแพงแล้ว พี่ก็จะเริ่ม short หรือ commodities เริม่ถูกแล้ว พี่ก็จะเริ่ม Long คราวนี้ถ้าน้องคิดถูกน้องก็จะได้เงินใช่มั้ยครับ และ ถ้าน้องผิดล่ะ มันจะเริ่มมีปัญหาสำหรับคนที่ไม่ได้วางกลยุทธ์ หรือ วางกลยุทธ์ผูกติดไว้ที่ตัวเองต้องถูกเท่านั้น positions ของพี่จริงต้องทยอยทำและเล็กมากๆ เพื่อให้น้องมองออก สมมุติพี่มีเงินอยุ่ 10 ล้าน บาท ทยอย short หุ้นตัวเล้กๆ 100 หุ้น ทีล่ะ 200-300 บาท ถามว่าเมื่อไรเงินพี่จะหมด เป็นต้น

5. น้องจะเริ่มถามว่าแล้วแบบนี้เมื่อไรจะรวย การเทรดหุ้นก็เหมือนหมากรุก หากน้องมองแค่เกมส์ตรงหน้า หรือหมากตรงหน้าระยะสั้น มันก็ไม่ได้ทำให้เราแตกต่างจากผุ้เล่นระดับ normal จริงมั้ยครับ เราต้องหัดมองอะไรให้ยาวมากขึ้น ลึกซึ้งมากขึ้น น้องจะเห้นว่าตลาดมันผันผวน สมมุติว่าพี่ผิด positions เล็กๆของพี่ก็ติดไปเรื่อยๆจริงมั้ยครับ แต่แน่นอนตลาดมันไม่วิ่งทางเดียวตลอด ระหว่างนั้นมันก้จะแกว่งไปตามความโลภ ความกลัวของคน มันก้ทำให้พี่ generate cash flow ลดต้นทุนใน positions เล้กๆที่พี่ติดไปเรื่อยๆจริงมั้ยครับ แล้วยิ่งถ้าพี่ติดอยุ่นานเท่าไร พี่ก้มีเวลา generate cash flow จากมันได้นานขึ้นเรื่อยๆจริงมั้ยครับ และ ถ้าวันใด วันหนึ่งที่พี่เกิดถูกขึ้นมา น้องขึ้นว่า portfolio พี่จะโตขึ้นเท่าไรครับ เช่นเดียวกันหากพี่ไม่ถูกไปตลอด น้องคิดว่าพี่จะ generate cash flow ได้นานเท่าไรครับ 5 ปี -10 ปี และ cash flow เหล่านั้นจะมหาศาลขนาดไหน ัน่หล่ะครับที่พี่เรียกว่า snow ball Technic ไม่ว่าจะอย่างไร ใครที่มี positions against พี่ you ต้อง paid ไม่ทางใดทางหนึ่งเสมอ นี่หล่ะวิธีคิดของพี่ simple ครับ


นั่นหล่ะครับทำไมพี่ถึงได้เทรดในกองทุนเฮดจ์ฟัน ทำไมพี่ถึงสร้างชื่อได้ตอนซัพพราม หากน้องลองคิดตาม มองอะไรที่ลึกซึ้งขึ้น ไม่จำเป้นต้องใช้วิธีแบบพี่ก็ได้ แนวทางในการเทรดของน้องจะหลากหลายมากขึ้น ไม่ต้องผูกติดและเครียดอยุ่กับการต้อง predict market อีกต่อไป เมื่อน้องเข้าใจถึงระดับนี้ได้ เมื่อนั้นน้องจะขึ้นมาเป้นผู้เล่นในเกมส์อีกระดับหนึ่งครับ ซึ่งลึกซึ้งและสนุกกว่าแบบเดิมๆมาก ^ ^



No comments:

Post a Comment